ใครๆ ก็อยากจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบทั้งหล่อ สวย รวย ฉลาด สมปรารถนาด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้เพราะมีความเชื่อว่า คุณสมบัติที่เพียบพร้อมสมบูรณ์จะทำให้ชีวิตมีความสุข และได้รับการยอมรับจากสังคม
บางคนจึงตั้งความหวังในชีวิตเอาไว้สูงเสมอจนเข้าขั้นเสพติด แต่รู้หรือไม่ว่า การทำตัวเป็นคนสมบูรณ์แบบตลอดเวลาอาจทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน!
การเสพติดความสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) ถือเป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นแต่ไม่รู้ตัว รู้หรือไม่ว่ายิ่งพยายามทำตัวเป็นคนสมบูรณ์แบบมากเท่าไหร่ ความสุขก็ยิ่งลดน้อยลงมาขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญความสมบูรณ์แบบนี่แหละที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคเครียด ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของโรคร้ายอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
1. คุณรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้รับรางวัลหรือมีคนชื่นชมคุณต่อหน้าคนอื่น
2. คุณรับไม่ได้ที่โดนตำหนิ และพยายามแก้ตัวอยู่เสมอเพื่อให้พ้นจากคำตำหนินั้น
3. ทุกครั้งที่เห็นคนอื่นผิดพลาดหรือเสียหน้า คุณจะรู้สึกดีและมักบอกต่อเรื่องเหล่านั้นให้คนรอบข้างฟัง
4. คุณไม่ยอมเปิดเผยความรู้สึกหรือเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟังมากนัก เพราะกลัวคนอื่นจะพบว่าคุณยังดีไม่พอ
5. คุณไม่กล้าเสนองาน แต่งตัวหรือคิดอะไรนอกกรอบ เพราะกลัวความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น
6. เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น คุณมักจะคิดซ้ำไปซ้ำมา ร้องไห้ และไม่ยอมให้อภัยตัวเองง่ายๆ
7. เมื่อคุณสะดุดล้ม ทักคนผิด เดินชนกระจก หรือแม้แต่พลาดในเรื่องเล็กๆ อย่างท้องร้องหรือเรอในที่สาธารณะ คุณจะรู้สึกเสียหน้าแล้วรีบเก๊กทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
8. เมื่อทำแบบทดสอบที่เกี่ยวกับตัวคุณ คุณจะรู้สึกเครียดและใช้เวลานานมากในการทำเครื่องหมายหน้าช่อง มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด
9. เมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อดีของตัวเอง คุณมักให้คำตอบแบบที่สังคมคาดหวัง เช่น เป็นคนตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน
10. คุณมักตั้งเป้าหมายในชีวิตให้สูงไว้เสมอ โดยโฟกัสเรื่องที่ยังทำไม่สำเร็จ และเมื่อทำสำเร็จแล้วคุณก็จะขยับเป้าหมายให้ไกลมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ความสุข
ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้แล้วรู้สึกเหมือนกำลังมองเห็นตัวเอง อย่าเพิ่งตกใจ ลองมาดูวิธีการใช้ชีวิตแบบมีความสุขง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
ทุกครั้งที่ทำผิดพลาดหรือทำอะไรไม่ได้อย่างใจ ต้องเลิกโทษว่าเป็นความผิดพลาดตัวเอง (แม้ความผิดพลาดนั้นจะเกิดจากเราจริงๆ) ให้คิดว่า เราได้ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว หัดยอมรับในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ เพราะการคิดวนเวียนไปมาซ้ำซากนั้น ไม่ได้ทำให้ปัญหาจบสิ้นไป มีแต่จะทำให้เราเป็นทุกข์ใจเพิ่มมากขึ้น
อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กเกรด 4 ที่อยู่หน้าห้อง คนเก่งที่สุดในที่ทำงาน หรือเพื่อนที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่ม เพราะแท้จริงแล้วเขาเหล่านั้นอาจไม่มีความสุขในชีวิตเลยก็ได้!…ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ โดยหันไปมองคนที่ใช้ชีวิตธรรมดา แต่หัวเราะร่าได้ทุกวันแทนดีกว่า
เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกเสียหน้าหรืออับอาย เช่น ถูกตำหนิต่อหน้าคนอื่น หรือถูกแซวแรงๆ จนหน้าม้าน แทนที่คุณจะแอบเสียใจหรือน้อยใจกับคำพูดนั้น ลองเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า แท้จริงเขาคงปรารถนาดี อยากให้เราปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เพียงแต่เขาพูดไม่เป็นและไม่รู้จักกาลเทศะ เมื่อมองได้อย่างนี้ ใจของคุณก็จะเป็นสุขด้วยความคิดบวกของตนเอง
การตั้งความคาดหวังในชีวิตมากๆ มีแต่จะทำให้เป็นทุกข์ใจ และเมื่อไหร่ที่เราเป็นทุกข์ รัศมีความทุกข์ก็จะแผ่ไปยังคนรอบข้างด้วย ทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ฉะนั้นเราจึงควรลดความคาดหวังลง และเมื่อเราไม่คาดหวังกับตัวเองมากนัก เราก็จะรู้สึกสนุกกับสิ่งที่เราทำมากยิ่งขึ้น…เผลอๆ ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ
การจ้องจะไปให้ถึงเป้าหมายตลอดเวลา อาจทำให้เราพลาดหลายสิ่งดีๆ ในชีวิต บางสิ่งที่เราคิดว่าไร้สาระในวันนี้ เมื่อนึกย้อนกลับไปอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเสียดายก็เป็นได้ ลองเดินออกมาจากกรอบเดิมๆ เพลิดเพลินกับความสุขเล็กๆ รายทางที่เรามองข้าม เอาเวลาอันแสนมีค่ามามอบให้กับเพื่อน คนรัก และครอบครัวดูบ้าง
แล้วจะรู้ว่าโลกที่ขาดความสมบูรณ์แบบใบนี้น่าอยู่ยิ่งกว่าเดิม
ลูกคนโตมีแนวโน้มจะมีอาการเสพติดความเพอร์เฟ็กต์มากกว่าลูกคนรอง เพราะมักถูกพ่อแม่คาดหวังว่าจะต้องเป็นที่พึ่งของครอบครัว ในครอบครัวคนจีน ลูกชายจะมีอาการเสพติดความเพอร์เฟ็กต์มากกว่าลูกผู้หญิงด้วยเหตุผลเดียวกัน ผลการวิจัยพบว่า คนที่เสพติดความเพอร์เฟ็กต์จะได้รับรายได้น้อยกว่าคนที่ใช้ชีวิตโดยไม่สนใจความเพอร์เฟ็กต์เลย
หน้าที่เข้าชม | 482,921 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 361,025 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ต.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |