ด้วยเหตุที่เห็ดตับเต่าเป็นเห็ดที่ขึ้นตามต้นไม้ที่มีความชื้นและไม่สามารถเพาะได้เหมือนการเพาะเห็ดในถุงพลาสติก หรือเห็ดฟาง เนื่องจาก การกระตุ้นให้ออกดอกนั้น จำเป็นจะต้องอาศัยเส้นใยจำนวนมาก และสารอาหารที่เกิดจากการหลั่งมาจากต้นพืชบางชนิด ที่จะไปกระตุ้นให้เส้นใยเห็ดตับเต่ารวมตัวกันเป็นดอกเห็ดได้ จึงเหมาะกับต้นโสนที่เป็นไม้อยู่ในตระกูลปาปิโอนีอี มีปลูกตามพื้นที่ลุ่มและเรือกสวนไร่นา เป็นไม้ที่ขึ้นง่าย ไม่ต้องทำนุบำรุงมากมายหรือเกือบจะเรียกว่าไม่ต้องทำนุบำรุงเลย ขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ดและจากพื้นฐานที่ว่า เห็ดตับเต่า เป็นเห็ดที่ขึ้นอยู่กับต้นไม้ร่วมกับรากพืช เป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยเห็ดได้ประโยชน์จากรากพืชคือได้ธาตุอาหาร และรากพืชได้ความชุ่มชื้นจากเห็ดทั้งนี้จากการสังเกตุและศึกษาข้อมูลเบื้องต้นจึงทำให้กลุ่มเกษตรกรคิดค้นวิธีการเพาะปลูกวิธีใหม่ที่ทำให้เห็ดตับเต่าสามารถงอกขึ้นมาได้โดยอาศัยความชื้นและการปลูกต้นโสนปะปนกับพื้นที่ริมคลองซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำสูงประมาณท่วมหัว ในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ และปรับอุณหภูมิความชื้นด้วยการติดสปริงเกอร์เพื่อพ่นน้ำสร้างความชื้นภายในพื้นที่ปลูกต้นโสน ทำให้เห็ดตับเต่าขยายพันธุ์และขึ้นเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีด้วยการนำเอาเชื้อเห็ดตับเต่าใส่เข้าไปในรากพืชที่ยังมีอายุน้อยอยู่ เมื่อรากพืชมีเส้นใยเห็ดเกาะติดแล้ว สังเกตจะเห็นต้นพืชที่มีเชื้อเห็ดเกาะติดแล้ว จะเจริญรวดเร็วกว่าต้นที่ยังไม่มีเชื้อเห็ดอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นจึงนำไปปลูกเมื่อพืชเจริญเติบโต ก็จะมีเห็ดตับเต่าเกิดขึ้น เมื่อมีเห็ดตับเต่าเกิดขึ้นแล้ว มันจะเกิดขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นจะต้องใส่เชื้อเห็ดเข้าไปใหม่อีกเลย จนกระทั่งต้นไม้นั้นตายไป
นอกจากนี้ต้นโสนยังมีอายุหลายสิบปี หลังจากการเพาะเลี้ยงต้นโสนและเห็ดตับเต่าควบคู่กัน ปรากฎว่า รายได้จากการเก็บเห็ดตับเต่าขาย ได้มากกว่าการเพาะเลี้ยงต้นโสนและพืชบางชนิด จึงทำการศึกษาและส่งเสริมการเพาะเห็ดตับเต่ากันอย่างจริงจัง ด้วยการปลูกต้นโสนเพื่อรักษาความชุ่มชื้น และส่งเสริมให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการเพาะเห็ดตับเต่า ด้วยการนำเชื้อเห็ดตับเต่า ทั้งในรูปของเชื้อบริสุทธิ์ที่เพาะเลี้ยงได้ไม่ยุ่งยากนัก หรือใช้ดอกเห็ดตับเต่าที่แก่ สร้างสปอร์แล้ว มาบีบหรือปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปใส่บริเวณปลายของรากไม้ ปรากฎว่า ปัจจุบัน สามารถเพาะเห็ดตับเต่าและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงได้ไม่น้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่า เห็ดตับเต่าสามารถเพาะได้หรือไม่ คำตอบที่แน่ชัดอยู่แล้ว คือ เพาะได้ แต่ต้องเพาะแบบอาศัยต้นไม้ที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น ดังนั้น ใครก็ตามมีต้นไม้ต่างๆเหล่านี้ สามารถเพาะเห็ดตับเต่าได้ ด้วยการนำเอาเชื้อเห็ดเข้าไปใส่บริเวณปลายราก(ปลายทรงร่มของต้นไม้) เพื่อให้เส้นใยของเห็ดตับเต่าเข้าไปเกาะบริเวณปลายรากของพืช โปรดจำไว้ว่า อาจจะเป็นการยากเล็กน้อยที่จะเอาเชื้อเห็ดใส่เข้าไป เพื่อให้เชื้อเห็ดเกาะบริเวณปลายรากต้นไม้ได้ หากไม่มั่นใจ ให้ใส่ไปหลายๆครั้ง จนกระทั่งมีเห็ดตับเต่าเกิดขึ้น จากนั้น ท่านไม่ต้องใส่อีกเลย ก็จะมีเห็ดตับเต่าเกิดขึ้นเป็นมรดกตกทอดชั่วลูกหลาน ตราบที่ต้นไม้นั้นยังอยู่ ก็จะมีเห็ดตับเต่าเกิดขึ้นตลอด และนี่แหละคือ ทองคำเพาะได้จริงๆ เพราะ บางแห่ง พื้นที่แค่ 1 ไร่ บางวันสามารถเก็บเห็ดตับเต่าขายได้หลายร้อยบาท และจะมีให้เก็บตลอดฤดูฝน หรือตราบเมื่อเราปรับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมได้ ก็จะเก็บได้ทั้งปีเช่นกัน