QUOTE 

รักษา"ข้อเข่าเสื่อม"วิธีใหม่ ไม่ต้อง..ผ่าตัด

เจ้าของร้าน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!

ข้อมูลจากภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ระบุว่า ประมาณ 1 ใน 3 หรือ 34.5-45.6% ของประชากรในประเทศ ไทยป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อม
และที่น่าตกใจมากขึ้นก็คือ อายุของผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ลดลงเรื่อยๆ จากเดิมที่มักพบในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันกลับพบในกลุ่มอายุ 45-50 ปี
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นในกลุ่มอายุที่น้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากภาวะอ้วน ทำให้ข้อเข่าแบกรับน้ำหนักเกิน หรือการนั่งยองๆ นั่งพับเพียบ รวมทั้งกรณีประสบอุบัติเหตุ หรือการเล่นกีฬาหักโหมเกินไป นอกจากนี้ อาจพบในกลุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงในกระดูกอ่อนจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ การติดเชื้อในข้อ หรือโรคเกาต์ ที่มีส่วนทำลายกระดูกอ่อนผิวข้อให้เสื่อมเร็วยิ่งขึ้นได้
โรคข้อเข่าเสื่อม (Arthritis) ชนิดที่พบบ่อยที่สุด เรียกว่า Osteoarthritis เป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกับการเสื่อมของข้อเข่าบริเวณกระดูกอ่อนของผิวข้อเข่าด้านบน ผิวข้อเข่าด้านล่าง และบริเวณใต้ลูกสะบ้า สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยที่กระตุ้นและพัฒนาให้เกิดโรคนี้มีหลายปัจจัย เช่น ความชรา กรรมพันธุ์ ความอ้วน การบาดเจ็บของข้อเข่าจากการเล่นกีฬา การทำงาน หรือจากอุบัติเหตุ
อาการเริ่มแรกของโรคข้อเข่าเสื่อมในระยะแรกไม่เด่นชัด แต่อาจรู้สึกว่าข้อเข่าขัดๆ หลังจากที่อยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ซึ่งเมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาการจะเริ่มชัดเจนขึ้น ระยะเวลาดำเนินโรคอาจเป็นเดือน หรือเป็นปีก็ได้
อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม
อาการสำคัญของโรคข้อเข่าเสื่อมที่พบบ่อย ได้แก่ อาการปวดเข่า ถือเป็นอาการสำคัญเริ่มแรก โดยจะเริ่มจากอาการปวดตึงทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเข่า หรือบริเวณน่อง เมื่อเป็นมากขึ้นจะปวดบริเวณเข่า โดยเฉพาะเวลาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ลุกนั่งหรือเดินขึ้นบันได
มีเสียงในข้อ เวลาที่เคลื่อนไหวนอกจากปวดแล้ว อาจมีเสียงในข้อดังขล็อกแขล็กๆ บางรายอาจมีอาการบวม หากข้อมีการอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ ข้อเข่าจะเริ่มโก่งงอ อาจจะโก่งด้านนอกหรือโก่งด้านใน ทำให้ขาสั้นลงเดินลำบากและมีอาการปวดเวลาเดิน และสุดท้ายข้อเข่าจะเริ่มยึดติด ทำให้ไม่สามารถเหยียดหรืองอขาได้สุดเหมือนเดิม เนื่องจากมีการยึดติดภายในข้อ
และข้อควรระวังสำหรับคุณผู้หญิง คือ ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคเข่าเสื่อมมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า!!!
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมมีหลายวิธี คือ การรักษาทั่วไป เช่น การให้ยาแก้ปวด การทำกายภาพบำบัด รวมถึงการปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงต่อการเกิดข้อเข่าเสื่อม เช่น ยกของหนัก การนั่งพับเพียบ นั่งยองๆ การนั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ การใช้ส้วมชนิดนั่งยองๆ การนอนกับพื้นเป็นประจำ ที่อาจ จะทำให้เกิดอันตรายกับเข่าขณะลุกขึ้นหรือลงนอน หลีกเลี่ยงการขึ้นบันไดบ่อยๆ ควรจะนั่งบนเก้าอี้ไม่ควรนั่งบนพื้น หากมีน้ำหนักตัวมากเกินไป การลดน้ำหนักเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะลดอาการปวด และช่วยชะลอข้อเข่าเสื่อมได้
การรักษาโดยการใช้ยา หากการรักษาทั่วไปไม่เป็นผล เพราะอาการข้อเข่าเสื่อมรุนแรงมากขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้ยาในการรักษา ซึ่งยาที่ใช้มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ยาแก้ปวด เป็นยาลดอาการปวดแต่ไม่ได้แก้อาการอักเสบ พอหมดฤทธิ์ยาก็ปวดอีก ยาแก้อักเสบ โดยเฉพาะยาในกลุ่มสเตียรอยด์ (steroid) สมัยก่อนนิยมใช้กันมากทั้งชนิดรับประทานและชนิดฉีดเข้าข้อ แต่ปัจจุบันความนิยมลดลงเนื่องจากผลข้างเคียงมีมาก โดยเฉพาะยาที่ฉีดเข้าข้อจะทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยากลุ่มนี้นิยมใช้กันมากขึ้น แต่ก็มีผลในเรื่องของโรคแทรกซ้อน นอกจากยาแล้ว ยังมีการรักษาด้วยการใช้น้ำหล่อเลี้ยงข้อชนิดเทียม เนื่องจากโรคข้อเสื่อมจะมีน้ำหล่อเลี้ยงข้อน้อยทำให้มีการเสียดสีของข้อ การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงข้อเทียมเข้าไปในเข่า 3-5 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 1 สัปดาห์ จะช่วยลดการเสียดสีของข้อ ลดอาการปวด วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะข้อที่เสื่อมไม่มาก
การรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งมีทั้งการผ่าตัดโดยการส่องกล้อง (arthroscope) เหมาะสำหรับข้อที่เสื่อมไม่มาก เป็นการผ่าตัดโดยใช้กล้องเข้าไปเอาสิ่งสกปรกที่เกิดจากการสึกหรอของข้อออกมา การผ่าตัดแก้ความโก่งงอของเข่า วิธีนี้ต้องตัดกระดูกบางส่วนออกทำให้ใช้เวลานานกว่าจะใช้งานได้ ส่วนใหญ่แล้วแพทย์ไม่นิยมทำ การผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมเป็นการใส่ข้อเข่าเทียมเข้าแทนข้อที่เสื่อม ซึ่งผลการผ่าตัดทำให้หายปวด ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ดีขึ้น แต่มีราคาสูง และนั่นหมายถึงข้อเข่าเดิมไม่สามารถใช้การได้แล้ว
นอกจากนี้ยังมีวิธีรักษาข้อเข่าเสื่อมอีกวิธีหนึ่งที่ทันสมัยกว่า 3 วิธีที่กล่าวมาข้างต้น นั่นก็คือ การใช้สเต็มเซลล์จากไขมันของตัวผู้ป่วยเองเข้าไปช่วยให้กระดูกและข้อเข่าต่างๆแข็งแรงขึ้น บรรเทาอาการปวด ลดอาการแทรกซ้อน ชะลอการเสื่อมของข้อ และป้องกันความพิการ
วิธีการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ ศัลยแพทย์จะดูดไขมันของผู้ป่วยจากบริเวณที่มีไขมันมากที่สุดในร่างกาย เช่น หน้าท้อง ก้น ต้นขา จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการคัดแยกในห้องปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง โดยใช้เอนไซม์ Collagenase ช่วยสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกจากไขมันด้วยการเขย่าในเครื่องที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส แล้วผสมกับสารละลายในพลาสมาเพื่อนิวทรีไลซ์ (Neutralize) ให้เกิดความสมดุลของเซลล์ จากนั้นจึงนำสเต็มเซลล์ที่ได้ฉีดกลับเข้าไปในข้อเข่าของผู้ป่วยโดยศัลยแพทย์กระดูกและข้อ (Orthopedist) สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามไปได้ที่ 0-2714-4471 ในต่างประเทศพบว่าอาการเข่าเสื่อมรักษาด้วยวิธีใช้สเต็มเซลล์จากไขมันของตัวเองนี้มีความปลอดภัยสูง สามารถรักษาอาการของข้อเข่าเสื่อมได้.
ที่มาจาก : thairath.co.th
แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

หมวดหมู่สินค้า

ช่างติดฉากกั้นห้องกรุงเทพและปริมณฑล [27]
ช่างติดฉากกั้นภาคเหนือ [0]
ช่างติดฉากกั้นห้องภาคกลาง [0]
ช่างติดฉากกั้นห้องภาคใต้ [0]
ช่างติดฉากกั้นห้องภาคอีสาน [0]
ร้านซักผ้าม่านภาคอีสาน [0]
ร้านซักผ้าม่านภาคเหนือ [0]
ร้านซักผ้าม่านภาคกลาง [0]
ร้านซักผ้าม่านกรุงเทพเขตปริมณฑล [0]
รับติดตั้งรางน้ำภาคอีสาน [0]

สมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม482,921 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด361,025 ครั้ง
เปิดร้าน3 ต.ค. 2559
ร้านค้าอัพเดท3 ก.ย. 2568

ติดต่อร้านค้า

0610347479
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านติดตั้งฉากกั้นแอร์ กั้นห้อง ต่อเติมบ้าน
ติดตั้งฉากกั้นแอร์ กั้นห้อง ต่อเติมบ้าน
รับออกแบบติดตั้งผ้าม่านทุกประเภท ม่านจีบ ม่านพับ ม่านตอกตาไก่ ม่านยก ม่านหลุยห์ ม่านปรับแสง มู่ลี่ ฉากกั้นห้อง วอลล์เปเปอร์ รับซักผ้าม่าน รับเย็บผ้าม่าน จำหน่ายรางโชว์ รางแวร์ไซน์ จำหน่ายอุปกรณ์
เบอร์โทร : 0610347479
อีเมล : dechobob@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม