ภาพปกเป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้นไม่ใช่เหตุการณ์จริง
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 60 ที่ผ่านมารองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ได้เปิดเผยเอกสารการหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนในหลายรายการ สำหรับคนที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้เสียน้อยลงในปี 2560
โดยรายละเอียดจากพระราชบัญญัติ ถูกแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 44) พ.ศ. 2560 เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
.
ซึ่งการปรับปรุงรายละเอียดจะมีดังต่อไปนี้
1 ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง ค่านายหน้า ฯลฯ อันเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา
40 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 50 แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท
2. ผู้ที่มีเงินได้จากค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์หรือสิทธิอย่างอื่น อันเป็นเงินได้
พึงประเมินตามมาตรา 40 (3) แห่งประมวลรัษฎากร ให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามที่ก าหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
ปรับปรุงการหักค่าลดหย่อนเพิ่มขึ้น
-สำหรับผู้มีเงินได้ เพิ่มเป็น 60,000 บาท
- ลดหย่อนสำหรับคู่สมรสของผู้มีเงินได้เพิ่มเป็น 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนสำหรับบุตร สำหรับบุตรชอบด้วยกฏหมาย หรือ บุตรชอบด้วยกฏหมายสามี หรือ ภริยา เพิ่มเป็นคนละ 30,000 บาท หากเป็น บุตรบุญธรรม เป็นคนละ 30,000 แต่ต้องไม่เกิน 3 คน
.
- ในกรณีที่สามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ ให้หักลดหย่อนรวมกันได้ไม่เกิน 120,000 บาท
- ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้หักลดหย่อนแก่หุ้นส่วน หรือบุคคลในคณะบุคคลเพิ่มเป็นคนละ 60,000 บาท แต่รวมกันต้องไม่เกิน 120,000 บาท
รายละเอียดปรับปรุงขั้นเงิน ภาษีเงินของบุคคลธรรมดา
ทั้งนี้การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรก ยังคงสามารถใช้ต่อไปตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 470)พ.ศ. 2551 ซึ่งหาบุคคลที่มีรายได้
อย่างไรก็ตามเท่ากับว่าเงินเดือน26,000 ต่อเดือน หากคิดแล้วต่อปีเท่ากับ 300,000 เมื่อหักลบค่าลดหย่อนผู้มีเงินได้ 60,000 หักค่าใช้จ่ายเหมารวม 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่เกิน 100,000 แล้วจะพบว่า รายได้ต่อปีไม่ถึง 150,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีนั้นเอง
.
รายละเอียด ปรับปรุงเกณฑ์เงินได้ขั้นต่ำ ที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี
กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) เพียงประเภทเดียว
(1) หากผู้มีเงินได้เป็นโสด ต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว
เกิน 120,000 บาท
.
(2) หากผู้มีเงินได้มีคู่สมรส ต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว
เกิน 220,000 บาท
.
4.2 กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) และมีเงินได้ประเภทอื่นด้วย หรือมี
เฉพาะเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินได้จากการจ้างแรงงาน
.
(1) หากผู้มีเงินได้เป็นโสด ต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว
เกิน 60,000 บาท
(2) หากผู้มีเงินได้มีคู่สมรส ต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว
เกิน 120,000 บาท
.
อย่างไรก็ตามการปรับปรุงดังกล่าวข้างต้น ให้ใช้สำหรับเงินได้พึงประเมินของปีภาษี 2560 ที่จะต้องยื่น รายการใน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป”
สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ส านักงานสรรพากรพื้นที่ทุกพื้นที่และศูนย์สารนิเทศสรรพากรโทร.1161 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 44) พ.ศ. 2560
หน้าที่เข้าชม | 484,804 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 362,908 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ต.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |