1. เหตุผลความเหมาะสม
เป็ดเทศเป็นเป็ดพื้นเมืองพันธุ์เนื้อที่เลี้ยงง่าย เติบโตเร็วสามารถใช้อาหารและวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีให้ผลตอบแทนในระยะเวลาอันสั้น สามารถจำหน่ายได้ง่าย ทั้งที่เป็นเป็ดมีชีวิตและเนื้อเป็ดชำแหละเนื้อเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคในท้องถิ่นโดยทั่วไป จึงสามารถจำหน่ายได้ง่ายเป็นตลาดท้องถิ่น เกษตรกรสามารถเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมร่วมกับอาชีพอี่น ๆ ได้
2. เงื่อนไขความสำเร็จ
2.1 ต้องมีตลาดรองรับที่ชัดเจน ทั้งตลาดเป็ดมีชีวิตและเนื้อเป็ดชำแหละ
2.2 ต้องมีแหล่งวัตถุดิบที่เป็นอาหารสัตว์ที่มีราคาถูกในพื้นที่หรือมีวัสดุเหลือใช้จากระบบไร่นา เพื่อใช้เป็นอาหรเลี้ยงเป็ดเทศ
2.3 ต้องมีความรู้และประสบการณ์ในการใช้ตู้ฟัก เพื่อฟักไข่ผลิตลูกเป็ดเทศ
3. เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต
3.1 พันธุ์เป็ด
ในปัจจุบันพันธุ์เป็ดเทศที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงและตลาดมีความต้องการได้แก่ พันธุ์พื้นเมืองและพันธุ์บาร์บารี่
3.2 โรงเรือนและอุปกรณ์
โรงเรือนควรทำจากไม้หรือวัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น หลังคามุงด้วยจาก หญ้าคา หรือแฝก ขนาดของโรงเรือน 1 ตารางเมตร สามารถใช้เลี้ยงเป็ดเทศได้ 4 ตัว ลักษณะโรงเรือนที่ดีตั้งอยู่ทิศตะวันออก – ตก ภายในโรงเรือนต้องมีภาชนะรางน้ำอาหารอย่างเพียงพอกับจำนวนเป็ดที่เลี้ยง ต้องมีลานปล่อยสำหรับให้เป็ดเทศออกกำลังและหาอาหารตามธรรมชาติกิน
3.3 การจัดการเลี้ยงดู
โดยทั่วไปการเลี้ยงเป็ดเทศใช้วิธีระบบการเลี้ยงแบบกึ่งขังกึ่งปล่อย ควรเริ่มด้วยการซื้อพ่อพันธุ์มาเลี้ยง อีตราพ่อแม่พันธุ์ที่เหมาะสม ควรใช้พ่อพันธุ์ 1 ตัวต่อแม่พันธุ์ 5 – 7 ตัว อาหารสำหรับเลี้ยงเป็ดเทศจะใช้อาหารสำเร็จรูปหรือผสมอาหารใช้เองก็ได้แต่อาหาร ต้องมีโภชนะตามความต้องการของเป็ดในแต่ละระยะการเจริญเติบโต เสริมด้วยพืชอาหารหยาบเพื่อให้เป็ดหาอาหารตามธรรมชาติเปพิ่มเติม แม่เป็ดจะเริ่มให้ไข่เมื่ออายุ 24 – 28 สัปดาห์ การฟักไข่อาจปล่อยให้แม่เป็ดฟักตามธรรมชาติหรือแยกนำไข่มาฟักโดยใช้ตู้ฟัก ซึ่งจะทำให้ผลการฟักออกดีขึ้นแต่ผู้เลี้ยงต้องมีความชำนาญในการใช้ตู้ฟัก โดยเฉลี่ยเป็ดเทศจะได้ลูกเป็ดได้ปีละ 4 รุ่น ๆ ละประมาณ 14 – 15 ตัว ในการเลี้ยงควรมีน้ำสะอาดและอาหารให้กินตลอดเวลา และหมั่นทำความสะอาดภาชนะใส่น้ำเป็นประจำควรดูแลสุขภาพและทำวัคซีน ตามโปรแกรมที่กำหนดเพื่อให้การเลี้ยงดูประสบผลสำเร็จและได้ผลกำไรเต็มที่ ผลผลติของเป็ดเทศที่จำหน่ายสู่ตลาดอาจจำหน่ายได้ทั้งลูกเป็ดที่ฟักออก หรือเลี้ยงขุนจนเป็ดมีอายุ 70 – 90 วัน แล้วจำหน่ายเป็ดเนื้อโดยจะมีขนาดน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยตัวละ 2.5 – 3 กิโลกรัม
4. ต้นทุน และผลตอบแทน
สำหรับการเลี้ยงเป็ดบาร์บารี่ จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วยพ่อพันธุ์ จำนวน 10 ตัว แม่พันธุ์ จำนวน 50 ตัว
4.1 ต้นทุน
ต้นทุนหลักซึ่งเป็นต้นทุนคงที่จะได้แก่ค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงเรือนและจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ จะมีค่าประมาณ 10,000 – 20,000 บาท ส่วนต้นทุนผันแปรซึ่งเป็นค่าพันธุ์ อาหาร วัคซีนและเวชภัณฑ์ จะมีค่าประมาณ 30,000 – 40,000 บาทต่อไป
1.1 ผลตอบแทน
จะได้จาก
1) การจำหน่ายลูกเป็ดเทศที่ผลิตได้ ประมาณ 50 – 60 ตัวต่อตัวต่อปี ซึ่งจะจำหน่ายได้ในราคาตัวละ 20 – 25 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 1,200 -1,500 บาท ต่อแม่ต่อปี
2) การจำหน่ายเป็ดใหญ่ที่เลี้ยงจนโต ขนาดน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยตัวละ 2.5 – 3 กิโลกรัม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 40 -45 บาท คิดเป็นผลตอบแทนตัวละ 90 – 100 บาท
อย่างไรก็ตามต้นทุนและผลตอบแทนการเลี้ยงสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการตลาดและแหล่งที่เลี้ยง อาทิ ราคาพันธุ์เป็ด อาหารและราคารับซื้อผลผลิตของแต่ละตลาด และขนาดการผลิต ดังนั้น เกษตรกรจะต้องศึกษาข้อมูลกละรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเลี้ยง